ทฤษฎีการ์ตูน ONE PIECE
ด้วยเหตุที่ว่าไปเจอทฤษฎีวันพีชนี้ในอินเตอร์เน็ตครับ
แปลมาจากภาษาอังกฤษ อ่านแล้วขนลุก
เพราะเจ้าของทฤษฎีวิเคราะห์ไว้ได้อย่างเชื่อมโยง และเหนือความคาดหมายมาก คิดว่าถ้าเป็นระดับโอดะ
คงไม่ยากที่จะคิดได้ขนาดนี้ หรือ ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านี้
ปล. ถ้าทฤษฎีนี้เกิดจริงขึ้นมา มันจะเป็นการสปอยล์ทุกสิ่งทุกอย่างในวันพีชครับ
ดังนั้น ขอเตือนสปอยล์ไว้ อย่างหนาๆ ตรงนี้เลย
ปล. ถ้าทฤษฎีนี้เกิดจริงขึ้นมา มันจะเป็นการสปอยล์ทุกสิ่งทุกอย่างในวันพีชครับ
ดังนั้น ขอเตือนสปอยล์ไว้ อย่างหนาๆ ตรงนี้เลย
———
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีอาณาจักรยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนดวงจันทร์ อาณาจักรโบราณ วิทยาการหลายพันปีเทคโนโลยีล้ำโลกไปไกล อาณาจักรนี้มีชื่อว่า
เบียร์ก้า (Beerka, Birka) ชาวเบียร์ก้ามีปีก สามารถสร้างหุ่นยนต์ สร้างไดอัล
(เทคโนโลยีที่ใช้บนเกาะลอยฟ้า skypia) แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อทรัพยากรหมด
พวกเขาจำต้องอพยพลงมาอยู่บนโลกสีฟ้า (ในภาค skypia เอเนลูสร้างยานพยายามบินไปดวงจันทร์ พยายามพูดถึงแฟรี่ยาร์ด) แบบแปลนยานที่ใช้อพยพ
น่าจะเป็นแปลนที่อยู่กับทอม (อาจารย์แฟรงกี้) เป็นยานที่บินได้ ใช้พลังงานมหาศาล ตอนที่ชาวเบียร์ก้าเดินทางมายังโลก
พวกเขามาโดยสันติ ตั้งใจมาตั้งถิ่นฐานยังโลก
จึงยินดีที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีให้มนุษย์โลกได้ร่วมใช้ไม่นานจากนั้น โลกก็พัฒนากลายเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่แต่พลังอำนาจไม่เข้าใครออกใคร องค์กรลับของมนุษย์โลกสีฟ้าอยากครอบครองเทคโนโลยีนี้เสียเอง จึงเริ่มทำการแย่งชิง การแย่งชิงครั้งใหญ่นี้ ทำให้โลกเข้าสู่ยุคสงคราม
เมื่อเข้าสู่สงคราม ชาวเบียร์ก้าสร้างอาวุธลับสามอย่างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองอาวุธสามอย่างนั้น มีชื่อว่า พลูตัน โพเซดอน และยูเรนัส ซึ่งอาวุธแต่ละอย่าง มีความสามารถที่ต่างกัน พลูตันเป็นอาวุธที่ใช้สำหรับป้องกัน มันทำปฎิกิริยากับแผ่นดินใต้น้ำให้ระเบิดออก แล้วก่อตัวแผ่นดิน สร้างเป็นโล่ป้องกันศัตรูที่จะเข้ามาทางน้ำ โพเซดอนเป็นอาวุธสายซัพพอร์ต มีความสามารถในการควบคุมเจ้าแห่งทะเล ให้มาเป็นกองกำลังช่วยต่อกรกับมนุษย์ทะเลสีฟ้า ส่วนยูเรนัส ยูเรนัสเป็นอาวุธสายทำลายล้าง อาจเป็นปืนใหญ่ที่กระสุนสร้างจากทรายบนดวงจันทร์ ซึ่งมีคุณสมบัติเดียวกับน้ำทะเล แต่อยู่ในรูปของแข็ง เพื่อให้สามารถต่อกรกับผู้ที่มีพลังผลปีศาจได้ สงครามครั้งนี้ยืดเยื้อยาวกว่าร้อยปี และสุดท้ายถึงแม้ว่าชาวเบียร์ก้าจะมีอาวุธสามอย่างนั้น พวกเขาก็ยังแพ้สงคราม ผลพวงจากสงครามครั้งนั้น ทำให้โลกสีฟ้าที่เคยรุ่งเรือง เละเทะจนไม่เหลือชิ้นดี แทบทุกอาณาจักรล่มสลาย แผ่นดินที่ก่อขึ้นใหม่อันเป็นผลจากกระทำของพลูตัน ได้แบ่งผืนน้ำที่เคยเป็นหนึ่งเดียว ออกเป็นสี่ส่วน กั้นโดยเรดไลน์ แบ่งโลกออกเป็นบลูต่างๆ โพเซดอน ทำให้ทะเลมีส่วนที่เรียกว่า คาล์มเบล สถานที่ที่เจ้าแห่งทะเลถูกจัดให้อยู่เป็นแนวรับ เพื่อต่อกรกับชาวทะเลสีฟ้าไม่ให้ข้ามมายังแกรนไลน์ได้ ส่วนยูเรนัส ได้จมลงสู่มหาสมุทร กระสุนปืนใหญ่กระจายไปทั่วท้องทะเล แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั่นเป็นที่มาของหินสีฟ้า (Sea stone) หินที่ใช้ใช้สลายพลังของผลปีศาจ
ชาวเบียร์ก้าผู้มีปีกที่รอดชีวิตจากสงคราม ต่างพากันซ่อนตัวจากการตามล่าขององกรลับปกปิดปีกของเผ่าพันธุ์ตนโดยการแต่งงานกับมนุษย์โลกสีฟ้า สืบสายเลือดโดยการใช้ “D” เป็นชื่อกลาง ซึ่งมีที่มาจากสัญลักษณ์ halfmoon หรือรูปดวงจันทร์ ที่เหลือเพียงครึ่งเดียว ส่วนองกรลับ หลังจากที่กำจัดชาวเบียร์ก้าไปแทบหมดสิ้น ก็ขึ้นยึดอำนาจเก่า พร้อมกับเรียกตัวเองว่า “รัฐบาลโลก” แล้วเริ่มทำการสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เขียนตัวเองให้ดูดี ทำหลายทุกหลักฐานความผิดที่ตัวเองเคยสร้างไว้ ในช่วงเวลา 100 ปี ที่ว่างเปล่า ชาวมีปีกผู้รอดชีวิตจากสงคราม รวมตัวกันเป็นครั้งสุดท้าย ที่ฐานทัพลับ ณ เกาะปลายสุดของแกรนด์ไลน์ ที่ชื่อว่าราฟเทล ซ่อนข้อความสุดท้าย ที่จะเฉลยทุกอย่าง ใน 100 ปีแห่งสงครามนั้น ด้วยภาษาโบราณที่จะไม่มีใครอ่านออก หวังว่าวันหนึ่ง สายเลือดชาวเบียร์ก้าในอนาคตจะมาพบ และช่วยเปิดเผยทุกอย่าง (นี่เป็นสาเหตุที่เกาะโอฮาร่า โดนบัสเตอร์คอลล์) หลายร้อยปีผ่านไปไม่มีใครทำสำเร็จ สิ่งที่สืบทอดกลายเป็นเรื่องเล่า เรื่องเล่ากลายเป็นตำนานตำนานโบราณ ซึ่งเรียกกันว่า “เจตนารมณ์ ของ D” และที่ราฟเทล ยังมีของอีกสิ่งหนึ่ง ที่ถูกฝังคู่กับข้อความสุดท้ายนี้ มันเป็นอาวุธโบราณชิ้นสุดท้ายของชาวเบียร์ก้า อาวุธที่ไม่มีความสามารถในการทำลายล้าง แต่มันเป็นอาวุธ ที่จะทำให้แผ่นดินทีผลุดขึ้นจากการกระทำของพลูตัน กลับลงไปสู่มหาสมุทรเหมือนเดิม
เมื่อถึงเวลานั้น ทะเลจะกลายเป็นออล์บลูที่ซันจิฝันถึง เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อทะเลทั้งสี่กลับมารวมกัน มันจะกลายเป็นที่มาของมหาสมบัติ ที่เรียกกันว่า “ONE PIECE” หรือความสงบสุข จากโลกที่เป็นหนึ่งเดียว
————
800 ปี ต่อมา
โจรสลัดชื่อ D คนหนึ่งเดินทางไปถึงราฟเทล
และค้นพบความจริงทุกอย่าง แต่ด้วยโรคร้ายที่รักษาไม่หาย
ทำให้เขามีเวลาไม่มากพอที่จะสานต่อเจตนารมณ์ เขารู้ดีว่าพลังของอาวุธชิ้นสุดท้ายที่จะนำมาซึ่ง
ONE PIECE นี้
ไม่สามารถสำเร็จผ่านคนเพียงหยิบมือได้ โจรสลัดชื่อ D
จึงตัดสินใจมอบตัวกับรัฐบาลโลก ตั้งใจประกาศยุคทองโจรสลัด
ณ ใจกลางลานประหาร ด้วยประโยคเดียว
ซึ่งปลุกตำนานขุมทรัพย์แห่งโจรสลัด…
“สมบัติของข้าถ้าอยากได้
ข้าจะยกให้
ณ ปลายทางแห่งท้องสมุทรอันยิ่งใหญ่
ข้าซ่อนมันไว้ที่นั่นแล้ว”
…